สิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยยืดพลังงานแบตเตอรี่ได้ คือการเลือกโหมดพลังงานที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานอุปกรณ์
ขั้นตอน:
1. คลิกที่ไอคอนแบตเตอรี่ โหมดพลังงานต่าง ๆ จะปรากฏขึ้น
2. เลื่อนแถบเลื่อนไปทางซ้ายเพื่อเลือก “โหมดประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saver)” ซึ่งจะปิดการทำงานบางฟีเจอร์ของ Windows และลดความสว่างหน้าจอลง และจะช่วยยืดระยะเวลาแบตเตอรี่ให้ได้นานที่สุด
3.คลิกที่การตั้งค่าแบตเตอรี่ ปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือที่ใช้งานได้จะแสดงขึ้นมาบนหน้าจอ
โหมดพลังงาน 4 แบบในแถบเลื่อนตั้งค่า
โหมดประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saver):ช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุแบตเตอรี่ เมื่ออุปกรณ์ไม่ได้เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟ เมื่อเปิดโหมดนี้ ฟีเจอร์บางอย่างของ Windows จะถูกปิดใช้งาน ลดประสิทธิภาพ หรือทำงานต่างจากปกติ รวมถึงลดความสว่างหน้าจอด้วย
โหมดแบตเตอรี่ดีกว่า (Better Battery):ให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นานกว่าการตั้งค่าเริ่มต้นใน Windows เวอร์ชันก่อนหน้า ในบางระบบโหมดนี้อาจแสดงชื่อเป็น “แนะนำ (Recommended)” แทนชื่อ Better Battery
โหมดประสิทธิภาพดีกว่า (Better Performance):เป็นโหมดเริ่มต้นที่เน้นความสมดุล โดยเน้นประสิทธิภาพมากกว่าแบตเตอรี่เล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้พลังงานแบตเตอรี่เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันที่ดีขึ้น
โหมดประสิทธิภาพสูงสุด (Best Performance):เน้นประสิทธิภาพและการตอบสนองของระบบเป็นหลัก เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ประสิทธิภาพสูงสุดและการตอบสนองที่รวดเร็วแม้ว่าอุปกรณ์ต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่เป็นอย่างมากก็ตาม