รีวิว realme 5 Pro สมาร์ทโฟน 4 กล้อง สเปคดีที่สุดในระดับราคานี้ มาพร้อม Snapdragon 712 AIE และแบตอึดชาร์จไว VOOC 3.0

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วสาหรับ realme 5 Pro สมาร์ทโฟนสเปคแรงในราคาแสนคุ้ม ด้วยขุมพลัง Snapdragon 712 AIE, ให้ RAM มาถึง 8GB, มี VOOC Flash Charge ถึง 20W และกล้องหลังอัจฉริยะถึง 4 เลนส์
สรุปสเปค realme 5 Pro
• ขนาดตัวเครื่อง : 157 x 74.2 x 8.9 มิลลิเมตร
• น้าหนัก : 184 กรัม
• หน้าจอแสดงผลแบบ IPS กว้าง 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9
• หน่วยประมวลผล : Snapdragon 712 AIE Octa Core ความเร็ว 2.3 GHz
• GPU : Adreno 616
• RAM 4 GB หรือ 8 GB
• ROM 128 GB รองรับการ์ดหน่วยความจาภายนอก MicroSD สูงสุด 256GB
• ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
• กล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
o เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 586 รูรับแสง f/1.8
o เลนส์ wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
o เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
o เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX 471
• รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 20W
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ตัวกล่องของ realme 5 Pro มาในกล่องสีขาวสะอาด เมื่อเปิดเข้ามาก็จะเจอกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่
• ตัวเครื่อง realme 5 Pro (ติดฟิล์มใสมาให้เรียบร้อย)
• อะแดปเตอร์ VOOC Flash Charge
• สาย USB Type-C
• อุปกรณ์เปิดถาดซิม
• เคสใสสาหรับตัวเครื่อง
• คู่มือการใช้งาน
• ใบรับประกันสินค้า บริเวณฝาหลังของ realme 5 Pro ก็ยังทาออกมาได้สวยสมบูรณ์แบบ เล่นสีตัวเครื่องกับแสงสะท้อนได้เป็นอย่างดี โดยเราจะเห็นเป็นลวดลายคริสตัลที่ใช้ชื่อเรียกดีไซน์ว่า “Holographic Diamond” ได้อย่างชัดเจน ยิ่งเมื่อลองสัมผัสและดูในทิศทางต่างๆ ก็จะเป็นการไล่เฉดสีฟ้าและม่วงได้อย่างลงตัวในสี Sparkling Blue ที่ใช้ในการรีวิวครั้งนี้
ที่ด้านหน้าจอใช้การดีไซน์ทรงหยดน้าที่สวยงามควบคู่กับการฝังกล้องหน้าลงไป มีการลดขอบดาที่ด้านล่างจอแสดงผลเล็กน้อย ทาให้ได้ขนาดหน้าจอที่กว้างเป็น 6.3 นิ้ว มีความละเอียดระดับ FullHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) พร้อมอัตราส่วน 19.5:9 มีพื้นที่การใช้งานมากถึง 90.6% เลยทีเดียว ใครจะเล่นเกมหรือชมวิดีโอก็ทาได้เต็มตาแน่นอน
ทั้งนี้ เรื่องความคงทนก็ยังสบายหายห่วงไปได้เพราะบริเวณหน้าจอครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3+ แถมให้ขอบที่โค้งแบบ 2.5D รองรับกับฝ่ามือขณะใช้งานได้เป็นอย่างดี
บริเวณเหนือหน้าจอที่เป็นรอยบากแบบหยดน้าสาหรับฝังกล้องหน้าและมีการฝังเซ็นเซอร์วัดแสงต่างๆ เข้าไปอีกด้วย และเมื่อถัดขึ้นไปดูด้านบนเล็กน้อยจะมีลาโพงขนาดเล็กอยู่ด้วย
ฝังซ้ายของตัวเครื่องไล่ลงมาจะมีช่องสาหรับใส่ซิมการ์ด (NanoSIM 2 ช่อง + MicroSD 1 ช่อง รวม 3 ช่อง) และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง
ส่วนฝั่งขวามีปุ่ม Power สาหรับปิด/เปิดเครื่อง หรือปิด/เปิดหน้าจอเพื่อล็อคเครื่อง
ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนสาหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ด้วย ที่ด้านล่างจะมีตั้งแต่ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ต USB Type-C และลาโพงตัวหลัก
ที่ด้านหลังมีกล้องมาให้ 4 เลนส์จัดเรียงเป็นแนวตั้งมุมซ้ายบน มีความละเอียดอยู่ที่ 48 + 8 (Wide-angle) + 2 (Macro) + 2 (Depth) ล้านพิกเซล และมีตัวอักษร “48MP” จะได้ไม่จาสลับกับ realme 5 โดยยังมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ถัดไป
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ realme 5 Pro แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่ครอบทับด้วย UI เวอร์ชันล่าสุดของแบรนด์กับ ColorOS 6.0 ที่ทาให้ไอคอนของแต่ละแอปฯ ดูสบายตามากขึ้น พร้อมกับมีพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
หน้าตา UI : ColorOS 6.0 สาหรับ realme 5 Pro ที่มาพร้อม ColorOS 6.0 ก็ให้ความสวยงามตามสีตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี เน้นไอคอนรูปแบบกลมๆ ให้ความรู้สึกสบายตาเวลาให้งาน โดยเราสามารถเพิ่มวิดเจ็ต หรือปรับผังหน้าจอหลักให้เป็นแบบอื่นได้ เพียงแต่กดค้างที่พื้นว่างบนหน้าจอหลัก ก็จะขึ้นการตั้งค่ามาให้ทันที
สาหรับเรื่องการใช้งานไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ คือ ปัดลงเพื่อดูการแจ้งเตือนหรือการตั้งค่าด่วน และปัดขึ้นเพื่อดูแอปพลิเคชั่นทั้งหมด
ใครที่อยากเปลี่ยนธีม ก็สามารถเข้าไปเลือกได้ในร้านค้าขายธีมที่มีให้เลือกเพียบ ตั้งแต่แนว PUBG Mobile, แนวศิลปิน หรือแนวที่เน้นสีสันก็มีให้เลือกเป็นร้อยๆ แบบกันเลย
พื้นที่คงเหลือหลังแกะกล่อง หลังจากเปิดเครื่องแล้วทาการอัปเดทแอปพลิเคชั่นต่างๆ แล้ว ด้วยหน่วยความจาภายในที่ให้มาถึง 128GB ก็เหลือให้เราใช้งานต่างๆ ได้ถึงประมาณ 114GB เลยทีเดียว
ระบบความปลอดภัย ด้านระบบความปลอดภัยก็ให้มาครบครัน ทั้งระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock) ที่ทางานได้อย่างรวดเร็วมากๆ เพียงแค่กดปลดล็อค ระบบก็สแกนหน้าได้ทันที แถมทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ส่วนระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ทางานได้รวดเร็วเพียงแค่แตะเซ็นเซอร์ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที โดยสามารถจดจาได้มากสุด 5 ลายนิ้วมือเลยทีเดียว
เคลียร์พื้นที่ขยะได้ง่ายๆ ด้วยตัวจัดการโทรศัพท์ เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ จนคิดว่าไฟล์ขยะจะเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือ RAM ถูกกินพื้นที่ในการใช้งานไปเยอะ เราสามารถเคลียร์ทั้งหมดได้ในแอปฯ ตัวจัดการโทรศัพท์ แล้วทาการเพิ่มความเร็วได้เพียงแค่คลิกเดียวเท่านั้น
ปุ่มนาทางเลื่อนได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานเข้าไปอีกสาหรับ realme 5 Pro ที่สามารถปรับเปลี่ยนปุ่มนาทางได้ตามที่เราถนัด ตั้งแต่การลากนิ้วขึ้นจากทั้ง 2 ด้าน คือ สามารถปัดซ้าย/ขวาจากข้างหน้าจอ เพื่อย้อนกลับ, ปัดขึ้นเพื่อไปหน้าโฮม และปัดขึ้นแล้วค้างไว้เพื่อดูแอปล่าสุด หรือใครอยากใช้แบบปกติแต่เพิ่มพื้นที่หน้าจอเล็กน้อยก็ทาได้ด้วยการลากนิ้วขึ้นแทนการกดปุ่มเสมือนก็ยังได้เช่นกัน
ลูกบอลช่วยเหลือ นอกจากจะมีปุ่มนาทางหลายแบบแล้ว ก็ยังมีลูกบอลช่วยเหลือเพื่อใช้งานสาหรับคนที่ไม่ชอบปุ่มนาทางแบบเดิม โดยลูกบอลช่วยเหลือนี้จะทางานคล้ายกับปุ่มนาทาง เช่น แตะ 1 ครั้งเพื่อย้อนกลับ, แตะ 2 ครั้งเพื่อดูแอปล่าสุด และแตะค้างเพื่อไปหน้าโฮม ทั้งนี้การแต่ละครั้งก็ปรับเปลี่ยนการทางานได้ตามใจชอบ
แถบด้านข้างอัจฉริยะ อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ก็สะดวกไม่แพ้ 2 ตัวบน คือ ‘แถบด้านข้างอัจฉริยะ’ ที่จะเป็นแถบบริเวณขอบตัวเครื่องให้เราเข้าถึงแอปฯ ที่เราใช้งานบ่อยได้ทันที โดยไม่ต้องมาเปิดหาให้เสียเวลา ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนแอปฯ ภายในแถบนั้นได้
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ขุมพลังแรงเล่นเกมอะไรก็ลื่น! realme 5 Pro มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 712 AIE แบบ 8 แกน (Octa-core) ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 10 นาโนเมตร ช่วยให้การทางานทาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ, ไหลลื่น และประหยัดพลังงานอย่างมาก โดยมี Clock Speed สูงสุดที่ 2.3GHz ซึ่งมีความใกล้เคียงของ Hexagon 685 DSP ของสมาร์ทโฟนระดับตัวท็อปเลย ส่วนการ์ดจอ (GPU) ก็ใช้ Adreno 616 ช่วยให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับตัว Snapdragon 710 AIE ควบคู่กับการประหยัดพลังงานมากกว่า Adreno 660 อีกต่างหาก
สาหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจาด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทาง realme 5 Pro ทาคะได้ไปได้ที่ 179,298 คะแนน
ผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ทาคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 1,133 และคะแนน Multi-Core ที่ 4,586
ทดสอบการเล่นเกม ทดสอบการเล่นเกม 3 เกมดังในไทยทั้ง PUBG Mobile, ROV และ Asphalt 9: Legends โดยมีผลทดสอบดังนี้
• PUBG Mobile
เริ่มที่เกม PUBG Mobile (ไม่ใช่เวอร์ชัน Lite) โดยเราปรับกราฟิกระดับ HD (สูงกว่านี้ต้องรออัปเดท) และเฟรมเรทระดับสูงสุด ซึ่งเล่นได้ไม่กระตุก และไม่มีปัญหาใดๆ
• ROV
สาหรับ ROV สามารถเปิดการกราฟิกและเฟรมเรทระดับสูงสุดได้ทั้งหมด (ระดับสูงมากต้องรออัปเดทในเร็วๆ นี้) โดยทดสอบจากการเล่นแบบ 5 VS 5 ก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ ไม่มีกระตุกหรือหน่วงแต่อย่างใด ซึ่งเฟรมเรทจะคงที่ตั้งแต่เริ่มเกมถึงจบเกมที่ประมาณ 58-60fps ถือว่าเล่นแล้วเป็น MVP ได้ไม่ยาก
• Asphalt 9: Legends
สาหรับเกมแข่งรถกราฟิกสวยๆ อย่าง Asphalt 9: Legends เราสามารถปรับกราฟิกระดับสูงสุดได้ โดยเมื่อเริ่มเล่นไม่พบอาการกระตุกกรือการหน่วงของเฟรมเรทเลยสักครั้ง ซึ่งยังได้ภาพที่คมชัดและสวยงามตามกราฟิกในเกมอีกด้วย
realme 5 Pro ยังมีฟีเจอร์ Game Space ที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้ไหลลื่นด้วยการลดการทางานแอปฯ เบื้องหลัง, ช่วยป้องกันการแจ้งเตือน และสามารถปรับโหมดให้เหมาะกับแต่ละเกมได้ทั้งโหมดแข่งขัน, โหมดสมดุล และโหมดใช้พลังงานต่า
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Game Assistant หรือผู้ช่วยสาหรับเกม ยังเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ให้เราไปตั้งค่าเมื่อเข้าไปในเกมได้ด้วยทั้งเปิด-ปิดโหมดห้ามรบกวน หรือพิมพ์ข้อความก็ยังได้ ซึ่งเพียงแค่ปัดซ้ายหรือขวา (ขึ้นอยู่กับหน้าจอฝังหยดน้า) ก็เรียกใช้งานได้ทันที
แบตอึดฯ ชาร์จไวด้วย VOOC Flash Charge 3.0 เมื่อเสียพลังงานในการเล่นเกมไปเยอะก็ต้องกลับมาชาร์จกันด้วยเทคโนโลยี VOOC Flash Charge 3.0 ที่มีความปลอดภัยในการจัดการความร้อน พร้อมกับช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้นแม้ว่าเราจะกาลังเล่นเกมอยู่ก็ตาม ซึ่งเราทดสอบชาร์จเมื่อแบตเตอรี่น้อยๆ ก็สามารถชาร์จให้เต็มในราวชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ เรื่องของแบตเตอรี่ที่แม้จะให้ความจุมาถึง 4,000 mAh แล้ว แต่เราก็ยังสามารถเปิดฟีเจอร์ “การป้องกันการใช้พลังงานอัจฉริยะได้” หรือ Smart Power Saver เพื่อช่วยให้การจัดการพลังงานของแอปพลิเคชั่นเบื้องหลังไม่มารบกวนมากเกินไป และยังช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นถึง 10% เลยทีเดียว
กล้องถ่ายรูป
ด้านกล้องถ่ายรูป realme 5 Pro ก็จัดเต็มมากๆ ด้วยการให้กล้องหลังมาถึง 4 เลนส์ โดยเรียงจากบนลงล่างจะมีดังนี้
• เลนส์ Super wide-angle 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX 586 รูรับแสง f/1.8
• เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
โดยแต่ละเลนส์จะมีความสามารถอย่างไรมาดูกันเลย
• AI Scene Recognition จดจาซีนได้แม่นยา
เริ่มกันด้วยฟีเจอร์หลักที่เรามักจะใช้เป็นอันดับแรกๆ อย่างการจดจาซีน (AI Scene Recognition) ที่สามารถแบ่งแยกหมวดหมู่ได้แม่นยา ไม่ว่าจะเป็นคน, พืช, สัตว์ หรืออาหาร เป็นต้น ซึ่งการถ่ายแต่ละฉากจะเปลี่ยนแปลงเฉดสีให้เหมาะสมกับวัตถุที่เรากาลังโฟกัส
• Ultra Wide ถ่ายกว้างจบได้ทุกมุม
มาถึงอีกเลนส์ที่สมาร์ทโฟนรุ่นไม่มีถือว่าผิด กับเลนส์ Super wide-angle ที่ทามุมกว้างได้สูงสุดถึง 119 องศากันเลย จะถ่ายวิวท้องฟ้าหรือบรรยากาศต่างๆ ก็เก็บได้ครบ แถมสีสันก็ยังสดใสแทบไม่ต่างจากเลนส์หลักเลย เมื่อลองดูกับการถ่ายด้วยเลนส์ปกติ และเลนส์ Ultra Wide จะเห็นว่าเราสามารถเก็บภาพบรรยากาศได้ทั้งหมด ไม่มีส่วนไหนขาด หรือหายไปเมื่อเทียบกับเลนส์ปกติ
• เพิ่มสีให้สดขึ้นด้วย Choma Boost
สาหรับโหมด Choma Boost คือการเพิ่มความสดของสีที่อยู่ในภาพทั้งหมด ทั้งยังเพื่มความคมชัดได้อีกด้วย ซึ่งโหมดนี้จะใช้การปรับแต่งที่ได้ AI มาช่วย ทาให้ดูสมจริงกว่าโหมด Vivid ในสมาร์ทโฟนทั่วไป
• ถ่าย Portrait ได้สวย เบลอหลังได้เนียนตา
เมื่อมีเลนส์ Portrait เพิ่มเข้ามา การใช้งานเมื่อถ่ายบุคคลก็ทาได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น มีการตรวจจับใบหน้าที่รวดเร็ว โดยเมื่อเริ่มถ่ายการเบลอฉากหลังก็ทาได้เนียนตามาก มีการตัดขอบบริเวณลาตัวและเส้นผมได้แม่นยา ซึ่งตรงนี้ต้องขอบคุณอีกเลนส์อย่างเลนส์ Depth ที่สามารถตรวจจับระยะของคนและพื้นหลังได้เป็นอย่างดี
• ความละเอียดสูงพิเศษ 48MP
แม้ว่าจะมีเลนส์ความละเอียด 48 ล้านพิกเซลอยู่ แต่เมื่อถ่ายออกมา เราได้ภาพขนาด 12 ล้านพิกเซลออกมา ซึ่งจริงๆ นั้นเป็นความสามารถในการถ่ายหลายๆ ช็อตมารวมเป็นภาพเดียวเพื่อความคมชัดที่มากขึ้น แต่หากใครอยากได้ภาพขนาดใหญ่ในความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ก็สามารถทาได้เช่นกัน ซึ่งจะทาให้ได้ภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูง และเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดีเหมือนเดิม
• Ultra Clear Nightscape ถ่ายกลางคืนให้สว่างคมชัด
realme 5 Pro ยังมีฟีเจอร์ Ultra Clear Nightscape ช่วยให้ถ่ายภาพในสถาวะแสงน้อยหรือตอนกลางคืนออกมาได้สวยงาม ซึ่งขอบอกว่าทาออกมาได้ดีมากๆ เก็บรายละเอียดได้เยี่ยม, ลด Noise ได้ดี และยังมีเซ็นเซอร์ CMOS ที่กว้างถึง 1/2.0 นิ้ว ทาให้เมื่อกดถ่ายไป ระบบจะคานวณและรวมภาพต่างๆ ได้เร็วขึ้น รอประมาณ 2-3 วินาทีก็คานวณเสร็จ ไม่ต้องถือแช่นานต่อไปแล้ว
• ถ่ายได้ใกล้สุดด้วย Ultra Macro
เพิ่มมาอีกเลนส์อย่าง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่สามารถโฟกัสวัตถุได้ในระยะใกล้มากๆ สูงสุด 4 เซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งภาพใบไม้ที่เราถ่ายมาก็มีความคมชัด เห็นรายละเอียดของสีและเนื้อผ้าต่างๆ ได้ชัดเจน
• กล้องหน้าสวย ทาหน้าชัดหลังเบลอก็ได้
สาหรับกล้อองหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลนั้น จะทางานร่วมกับ AI ในการวิเคราะห์ใบหน้าของบุคคลว่าเป็นเพศไหนและอายุประมาณเท่าไหร่ซึ่งสามารถจดจาที่มากถึง 296 จุด เพื่อที่จะปรับฟีเจอร์ AI Beauty ให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล ทั้งนี้ หากใครอยากปรับเพิ่มก็ทาได้ด้วยตัวเองเช่นกัน ทั้งแบบตาโต, หน้าเรียว หรือจมูกเล็กลง เป็นต้น นอกจากนี้ กล้องหน้ายังสามารถปรับหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกับกล้องหลังอีกด้วย ซึ่งการตัดขอบต่างๆ ก็ยังทาออกมาได้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว
สรุปจุดเด่น
• ดีไซน์ถือเป็นเอกลักษณ์ของ realme 5 Pro ด้วยลวดลายคริสตัลที่ให้ความหรูหรา
• หน้าจอแสดงผลใหญ่และคมชัดด้วยขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+
• realme 5 Pro ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 712 AIE ที่เป็นหนึ่งในตัวท็อปของระดับกลาง ใช้งานได้ไหลลื่น เล่นเกมก็สบาย
• มีกล้องหลังถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมด้วยเลนส์ Super wide-angle ถ่ายมุมแคบๆ ก็เก็บได้ครบ
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ถ่ายหน้าสวยแบบไม่ต้องปรับ เพราะมี AI Beauty
• มีความจุแบตเตอรี่ถึง 4,000 mAh แถมรองรับ VOOC Flash Charge 3.0
• ใช้พอร์ต USB Type-C
จุดสังเกตเพิ่มเติม
• ไม่มีหูฟังภายในกล่อง
realme 5 Pro รุ่นแรม 4 GB ความจุ 128 GB ราคา 7,999 บาท และรุ่นแรม 8 GB ความจุ 128 GB ราคา 8,999 บาท เริ่มพรีออเดอร์แล้ววันนี้ตั้งแต่วันที่ 3 – 13 กันยายน 2562 รับฟรีทันที VIP Card และหูฟัง โดยเริ่มวางจาหน่ายวันที่ 14 กันยายนนี้เป็นต้นไป

Back
Choose your market
Products may have different prices and availability based on market
Asia-Pacific
Europe
Middle East and Africa
Latin America
Other Regions